วันเสาร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

แฉมีบิ๊กกต.สั่งการ

เพื่อไทยไล่บี้กระทรวงการต่างประเทศตั้งกรรมการสอบ "คำรบ" แถมโวมีหลักฐานเบอร์โทร-ศัพท์บิ๊ก กต.สั่งการให้ล้วงข้อมูลจาก "ศิวรักษ์" ขณะที่เลขาฯ รมว.ต่างประเทศสวนกลับไม่ตั้งกรรมการสอบ ยันเลขาฯสถานทูตฯทำตามกรอบกฎหมาย "ปณิธาน" เผย "คำรบ" เตรียมออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รัฐบาลเริ่มตั้งท่าฟื้นความสัมพันธ์ เขมร เล็งส่งเลขาฯสถานทูตกลับไปทำงาน "อภิสิทธิ์" ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำ ปชป.ในโอกาสเป็นนายกฯครบ 1 ปี "สาทิตย์" ตีปี๊บจัดคอนเสิร์ตให ้ "มาร์ค" ร้องเพลงลูกทุ่ง มท.ฮึดเปิดทีวีขายสินค้าโอทอปสู้ทีวี 100 ช่องของ "ทักษิณ"

วันเสาร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ลูกศิษย์วัดป้อง"อาจารย์อึ่ง" ยันขุนแผนไคโยตี้ไม่ใช่พระ

ความคืบหน้ากรณีลูกศิษย์พระอาจารย์สุเทพ สุทธสีโล หรือพระอาจารย์อึ่ง พระเกจิชื่อดัง วัดเวตวันธรรมาวาส (วัดเซิงหวาย) เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ จัดทำพระเครื่อง "ขุนแผนไคโยตี้" มีรูปผู้หญิงเปลือยกายโอบกอดศิวลึงค์ เป็นองค์ประกอบ และปลุกเสกโดยพระอาจารย์อึ่ง จนพระรัตนเมธี เจ้าคณะเขตบางซื่อ และหัวหน้าพระวินยาธิการ (ตำรวจพระ) ได้เชิญพระอาจารย์อึ่งมาทำทัณฑ์บน และให้ยุติการสร้างนั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เมษายน ที่วัดเวตวันธรรมาวาส นายรัชชานนท์ พวงสมบัติ ลูกศิษย์พระอาจารย์สุเทพ และผู้จัดสร้าง "ขุนแผนไคโยตี้" รุ่น 2 พร้อมด้วยพระสมชาย ธัมมรโต พระปกครอง และพระมนตรี ปภาธโร เลขานุการพระครูพิศาล สารคุณ เจ้าอาวาสวัดเซิงหวาย แถลงชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนพระอาจารย์สุเทพติดกิจนิมนต์


นายรัชชานนท์กล่าวว่า ขุนแผนไคโยตี้ไม่ใช่พระเครื่องแต่เป็นเครื่องราง ซึ่งการสร้างเครื่องรางลักษณะนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าเกียจน่ากลัว แต่เป็นมิติหนึ่งของวัฒนธรรมที่อยู่คู่คนไทยมานาน หากไปกระทบหรือทำให้ชาวพุทธไม่สบายใจ ก็ต้องขอโทษ ที่ทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น จากนี้จะระมัดระวังเพิ่มขึ้น ส่วนกรณีสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) และหลายฝ่ายตำหนิการกระทำพระอาจารย์อึ่งนั้น ขอชี้แจงว่าพระอาจารย์อึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดสร้างแต่อย่างใด ทุกอย่างลูกศิษย์ดำเนินการเอง นายสมเกียรติ ทองสุข ลูกศิษย์ รู้จักกับผู้จัดสร้างรุ่นที่ 1 อาสานำมาให้พระอาจารย์ปลุกเสกให้ 2,000 องค์ ส่วนรุ่นที่ 2 ตนสร้าง 200 องค์แจกจ่ายให้ผู้บริจาคเงินวัด เมื่อพระอาจารย์เห็นก็ตกใจและเกิดความเป็นห่วง จึงให้ลูกศิษย์รีบแจกให้หมด


พระสมชายกล่าวว่า ทางวัดไม่เคยรับทราบเรื่องพระขุนแผนไคโยตี้มาก่อน จึงไม่จำเป็นต้องทำหนังสือชี้แจง มส. เพราะได้ชี้แจงผ่านเจ้าคณะปกครองไปแล้ว


นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาเรื่องร้องเรียนการจัดสร้างพระเครื่องและวัตถุมงคลในลักษณะไม่เหมาะสมถือว่าน้อย ถึงมีก็จะร้องเรียนไปยังเจ้าคณะภาคและเจ้าคณะจังหวัด

วันพฤหัสบดีที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2553

แง่คิดสะกิดธรรมข่าวไทยรัฐ ๓ มี.ค. ๕๓

ขอขอบคุณที่มาจากหนังสือพิมพ์และเว็ปไทยรัฐค่ะ

ม็อบชมพูชกแดงหวิดปะทะตร.ห้ามทัพระทึก!

หวิดได้เลือด ม็อบคนเสื้อแดงยกพลไปยื่นหนังสือสถานทูตสหรัฐฯ แต่หลงเข้าดงคนเสื้อชมพูย่านสวนลุมพินี เจอรุมโดนชกหน้า ตำรวจต้องระดมกำลัง เข้าตรึงเข้าห้ามจ้าละหวั่น ด้าน "สุเทพ" มั่นใจบริหารจัดการม็อบได้อยู่ โดย "มาร์ค" ร่วมย้ำ ใครแรงก่อนก็พังก่อน ขณะที่บิ๊ก ตร.ยังหวั่นเจอระเบิดถล่มหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านคนสำคัญ ส่วนประเด็นแรงแจงผลเลือดคนเสื้อแดงยังล่อกันวุ่น หมอรามาฯแถลงไม่เคยสั่งเก็บตัวอย่างเลือด แต่หมอหญิงรองผู้ว่าฯ กทม.ยันพบเลือดมีเชื้อร้ายจริง แพทยสภาจ้องตามซํ้าเอาผิดหมอที่ร่วมเจาะเลือดคนเสื้อแดงด้วย

- ใครบุกไปปะทะ คือ อันธพาล

ลดยุบสภาได้30วัน

"อภิสิทธิ์" ไม่หวั่นม็อบ กลับเข้าทำเนียบเป็นวันที่ 2 ลั่นรัฐบาลพร้อมจะเปิดโต๊ะเจรจากับแกนนำ นปช.รอบ 3 ติงเสื้อแดงอย่าแสดงออกในลักษณะข่มขู่กลุ่มอื่น ยอมรับอยากให้คนไทยได้ฉลองสงกรานต์กันตามปกติ "สุเทพ" เมินข้อเสนอนักวิชาการที่ให้ยุบสภาภายใน 3 เดือน ชี้ลดระยะเวลายุบสภาได้อย่างเก่งแค่ 20-30 วัน ย้ำเงื่อนไขยุบสภา 9 เดือนคิดรอบคอบดีแล้ว อ้างต้องให้ ประชาชนมีเวลาตัดสินใจ พร้อมขู่เสื้อแดงยกระดับใช้ความรุนแรงจะจับกุมทันที เพื่อแผ่นดินออกแถลงการณ์คัดค้านการทำประชามติ อ้างสิ้นเปลืองเงินภาษี เอาไปแก้ปัญหาภัยแล้งดีกว่า พร้อมทวงสัญญาแก้ไข รธน. 6 ประเด็น รวมชาติพัฒนาขอรอดูท่าทีพรรคร่วมรัฐบาล ขณะที่ภูมิใจไทยเมินแถลงการณ์เพื่อแผ่นดินชี้ยิ่งทำยิ่งล่าช้า

- ยังมีประชาชนอีกมากเห็นว่า รัฐอย่ายุบสภา

เขาดินครวญคนผวาเสี่ยงวิกฤติรุนแรงรายได้หดวูบต้องลดค่าตั๋ว

ผอ.เขาดินวนากุมขมับม็อบมารายได้หด ได้รับผลกระทบหนักถึงกับต้องย้ายสัตว์หนีขณะที่นักท่องเที่ยวไม่มั่นใจในความปลอดภัย ไม่กล้าพาบุตรหลานมาเที่ยว ทั้งที่เป็นช่วงปิดเทอม โอดตอนนี้รายได้หายกว่าร้อยละ 90 ถึงขนาดต้องหั่นครึ่งราคาค่าตั๋วเข้าชม สำหรับคนต่างชาติเหลือแค่ 50 บาทต่อคน ห่วงหากยังชุมนุมยืดเยื้อสถานการณ์คงแย่แน่

- ผู้ชุมนุมกลุ่มไหนเอ่ยน่ากลัว และชอบหาเรื่องรุนแรงมากที่สุด ?

วัดพิลึกจัดปลุกเสกพระขุนแผนโคโยตี้

ฮือฮา "พระขุนแผนโคโยตี้" หลวงพ่อวัดดังย่านบางซื่อ ปลุกเสกพระเครื่องรูปทรงอุบาทว์ มีรูปหญิงโคโยตี้เต้นเปลือยโยกเสาซุ้มประตูใกล้กับพระขุนแผน ด้านหลังรูปหญิงเปลือยโอบศิวลึงค์ ส่อลามก ชาวบ้านแห่มาขอบอกว่าไปบูชาแล้วค้าขายดี ด้าน ผอ. สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคมแจ้งเตือนไม่เหมาะสมตามหลักพระพุทธศาสนา หากถูกร้องจะส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ ฝากเตือนประชาชนโปรดใช้วิจารณญาณก่อนจะเช่าพระเครื่อง

- ไปกันใหญ่แล้วเจ้ากู

แฉการเมืองฆ่าจ่าเพียร

นายพลคนดัง "วิสุทธิ์ วานิชบุตร" โผล่ออกมาแฉเบื้องหลัง "ไอ้โม่ง" ฆ่า "สมเพียร เอกสมญา" ทางอ้อม ชื่อหลุดโผก่อนหน้าจบชีวิต มีต้นตอมาจากนักการเมืองแทรกแซงระบบการแต่งตั้งตำรวจ กินโควตา 50 เปอร์เซ็นต์ ยันมีหลักฐานใครขอมา จะโทษ ผบช.ภ.9 หรือ ผบช.ภ.10 ไม่ได้ รัฐบาลต้องรับผิดชอบ เหตุเพราะการ เมืองไม่ยอมถอย พยายามเยียวยาแล้วก็ไม่ได้จนถึงทางตัน

- การเมืองที่ซื้อตำแหน่ง คือ การฆ่าคนดี

รบ.สั่งคุมเข้มวันสงกรานต์ผุดไอเดียเก๋ฝากเหล้าตร.

รัฐบาลสั่งคุมเข้มสงกรานต์ 2553 ประสาน กทม.จัดงานใน 50 เขต โดยเฉพาะจุดท่องเที่ยว หลัก ถนนข้าวสาร สนามหลวง สวนสันติชัยปราการ ย่านอาร์ซีเอ งดเล่นแป้ง ดื่มสุรา ใช้ ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และรถกระบะขนน้ำมาเล่นสาดกัน ห้ามเข้าในพื้นที่การจัดงาน ส่วนการป้องกันอุบัติเหตุทาง ถนน สตช.ตั้งจุดตรวจแอลกอฮอล์ 2,700 จุดทั่วประเทศ ตั้งเป้าลดยอดตายเจ็บให้ได้ร้อยละ 5 จากปีกลาย แล้วผุดไอเดียเก๋ รับฝากเหล้ากับตำรวจ การันตีไม่มีหาย ไม่มีลด หมดสงกรานต์แล้วค่อยมาเอาคืน

- ทำให้จริง

วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

รวบมือโจรกรรมพระพิพิธภัณฑ์ขอนแก่นที่แท้เป็นนักศึกษามหา"ลัยดัง

รวบมือโจรกรรมพระพิพิธภัณฑ์ขอนแก่นที่แท้เป็นนักศึกษามหา"ลัยดัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 26 ธ.ค. พล.ต.ท.สันติ เพ็ญสูตร ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ศักดา เตชะเกรียงไกร รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.พัฒนี ศิริวัฒนี ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น และ พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา ผบก.ศสส.ภ.4 ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123/2009 ม.16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น กำลังศึกษาอยู่คณะศึกษาศาสตร์ เอกศิลปะ ปี 3 มหาลัยชื่อดังในจังหวัด พร้อมด้วยของกลาง พระเครื่องกรุนาดูน และเทวรูปโบราณ จำนวน 71 รายการ และนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา อายุ 41 ปี ที่อยู่ 125/1 ม.3 ต.พระธาตุ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม ได้พร้อมด้วยของกลาง พระเครื่องกรุนาดูน จำนวน 20 รายการ โดยมี พระครูโสภณ เจติยาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอนาดูน จ.มหาสารคาม พร้อมด้วยพุทศาสนิกชน ประมาณ 20 คน และ นางสาวอัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น เข้าร่วมตรวจสอบของกลาง

สืบเนื่องจากช่วงวันที่ 4-5 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีคนร้ายเข้าไปโจรกรรมโบราณวัตถุ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า คนร้ายเข้าไปภายในพิพิธภัณฑ์ในช่วงเวลา 16.00 น.ของวันที่ 4 ธ.ค. โดยหลบซ่อนตัวอยู่ที่ฉากกั้นบริเวณชั้นที่ 1 ก่อนจะลงมือในช่วงเวลากลางคืน ด้วยการทำลายกุญแจตู้จำนวน 6 ใบ ที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารพิพิธภัณฑ์ กวาดเอาโบราณวัตถุไปจำนวน 91 รายการ จากนั้นใช้เลื่อยตัดกัญแจที่ประตูทางเข้าออกแล้วหลบหนีไป แต่กล้องวงจรปิดของพิพิธภัณฑ์ สามารถจับภาพผู้ต้องสงสัยเอาไว้ได้ เป็นชายวัยรุ่น อายุ 20-25 ปี สูงประมาณ 160 เซนติเมตร ผมสั้น สะพายกระเป๋าเป้สีดำ ซึ่งภาพดังกล่าวได้ปรากฏตามสื่อมวลชนไปทั่วประเทศ

จากภาพดังกล่าว ประชาชนได้แจ้งเบาะแสมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนไปสู่การจับกุมคนร้ายได้ทั้งหมด 2 คน คือ นายมงคลเดช ศูนย์จันทร์ อายุ 21 ปี นักศึกษา ที่ชื่นชอบโบราณวัตถุ และเป็นคนเข้าไปในอาคารพิพิธภัณฑ์ ลงมือโจรกรรมเอาโบราณวัตถุไปทั้งหมด 91 ราย จากนั้นนำไปขายให้กับ นายประดิษฐ์ ปะวะภูตา อายุ 41 ปี จำนวน 20 รายการ เป็นเงินประมาณ 150,000 บาท


โดยก่อนหน้านี้ มีพลเมืองดีแจ้งข้อมูลมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พบเห็นชายวัยรุ่น ซึ่งเป็นนักศึกษาพักอยู่ที่หอพัก บ้านคุณป้า ห้องหมายเลข 10 ซึ่งอยู่ในซอยร้าน ซี.เอส.เค ใกล้กับตลาดเจ้พร ไปซื้อสร้อยคอทองคำให้ตัวเองกับแฟนสาวที่ร้านทองแห่งหนึ่ง ใกล้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่น และชายคนดังกล่าวก็ห้อยพระเครื่องกรุนาดูน ที่คอ ลักษณะตรงกับพระที่หายไป ซึ่งกล้องวงจรปิดของร้านทองก็จับภาพของชายคนดังกล่าวไว้ได้ ในขณะเดียวกันร้านทองก็ได้จดชื่อ ที่อยู่เอาไว้ด้วย เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบปรากฏว่า ภาพชายคนดังกล่าว ตรงกับภาพของผู้ต้องสงสัย ในกล้องวงจรปิดของพิพิธภัณฑ์ จึงได้เข้าตรวจที่ห้องพักภายในหอพัก พบพระเครื่องกรุนาดูน และเทวรูปโบราณ จำนวน 71 รายการ ซ่อนอยู่ในกล่องกระดาษ

จากการสอบสวนทราบว่า นายมงคลเดช ชื่นชอบโบราณวัตถุ จึงเข้าเรียนที่คณะศึกษาศาสตร์ เอกศิลปะ และได้ตระเวนไปดูสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมทั้งที่พระธาตุนาดูนและที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น และได้รู้จักกับนายประดิษฐ์ ปะวะภูตา อายุ 41 ปี เป็นชาวนาดูน และเป็นลูกชายของนายทองดี ปะวะภูตา เจ้าของที่ดินที่มีการขุดพบพระกรุนาดูน จนมีความสนิทสนมกัน แต่การลงมือโจรกรรมโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ครั้งนี้ นายมงคลเดช บอกว่า ลงมือทำเพียงคนเดียว เพราะเคยเข้าไปเที่ยวชมมาแล้วหลายครั้ง จนรู้ว่าต้องเข้าออกที่ประตูด้านไหน จึงได้นำเลื่อยตัดเหล็ก ไขควง ไฟฉายขนาดเล็ก ใส่ในกระเป๋าสะพายสีดำ แอบเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น.ของวันที่ 4 ธ.ค. กระทั่งประชาชนที่เข้าชมภายใน ทยอยออกกันหมด จึงได้ไปซ่อนตัวด้านหลังฉาก ตกกลางคืน จึงลงมือโจรกรรมโบราณวัตถุ และหลบหนีออกมาในช่วงเวลา 04.00 น.ของวันที่ 5 ธ.ค.


เมื่อหลบหนีออกมาได้ ก็กลับไปที่ห้องพัก ช่วงระหว่างวันที่ 6-10 ธ.ค. ได้ติดต่อให้นายประดิษฐ์ มาดูสิ่งของ และซื้อพระกรุนาดูไปทั้งหมด 20 รายการ ราคาประมาณ 150,000 บาท เมื่อได้เงินมาก็พาแฟนสาวไปซื้อทองมาใส่ จนนำไปสู่การจับกุมดังกล่าว


ด้าน น.ส.อัจฉรา แข็งสาริกิจ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติขอนแก่น กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยติดตามสมบัติของชาติกลับคืนมา และบอกว่าถึงแม้บางรายการ ที่ได้กลับมา จะแตกหัก ก็จะเก็บรักษาให้ดี


ภายหลังการแถลงข่าว เจ้าหน้าที่คุมตัวนายมงคลเดช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ไปดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือเป็นวัตถุทางศาสนาที่เก็บไว้เป็นสมบัติของชาติในพิพิธภันฑสถานแห่งชาติในเวลากลางคืน หรือรับของโจร ส่วนรางวัลนำจับจำนวน 200,000 บาท อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าควรจะมอบให้ใคร ระหว่างพลเมืองดีที่ให้เบาะแส และเจ้าของร้านทอง